พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ กำเนิดช่วงวันที่ 27 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2430 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นลูกของนายพลอย และก็นางทับ รัตนคอน มีลูกพี่ลูกน้องอยู่ร่วมกัน 2 คน ซึ่งมรณะก่อนหลวงปู่ตั้งนานแล้ว ในวัยเด็ก เด็กผู้ชายโต๊ะ ได้เข้าห้องเรียนวิชาอยู่ที่วัดเกาะแก้ว ใกล้รกรากของท่าน เมื่อแม่ถึงแก่ชีวิต พระสงฆ์แก้ว มองเห็นความมานะของเด็กผู้ชายโต๊ะ ก็เลยได้พาเด็กผู้ชายโต๊ะ มาฝากอยู่กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในยุคนั้น ส่วนนายเชื่องช้าก็มิได้ตามมาด้วย ดำรงอยู่ที่วัดเกาะแก้วอย่างเดิม ท่านได้มาเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีอยู่ตรงเวลาอยู่ 4 ปี ก็ได้บวชเป็นเณรเมื่ออายุได้ 17 ปี เมื่อปี พุทธศักราช 2447 โดยมีพระอธิการสุขเป็นอุปัชฌาย์ บวชได้วันเดียวพระอธิการสุข ซึ่งเป็นอุปัชฌายรวมทั้งผู้ชุบเลี้ยงของท่านก็ได้ตาย นายเหมือน นางพันธ์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของพระอธิการสุข และก็มีบ้านอยู่ใกล้วัดประดู่ฉิมพลีก็เลยได้เลี้ยงดูท่านถัดมา เมื่อบวชแล้ว ท่านก็มาเรียนเรียนรู้พระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งถัดมามีพระอธิการคำ เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา และเรียนการเข้าฌานกับพระคุณครูพระพรหม วัดประดู่ฉิมพลีอีกท่านหนึ่งด้วย จนตราบเท่าเมื่อแก่ได้ 20 ปี เณรโต๊ะ ได้เข้าพิธีการบรรพชาช่วงวันที่ 16 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2450ในเขตสังฆกรรม วัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมที่ธรรมสมาทาน (แสงสว่าง) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญก้าวหน้า เป็นอุปัชฌายะ พระครูอักขรานุสิต (ผ่องใส) วัดนวลนรดิศ เป็นพระคำประกาศจารย์ พระครูธรรมวิรัต (เชย) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวทุ่งนาจารย์ ได้รับสมญานามทางธรรมว่า อินทสุวัณโณ หลงหลังจากนั้น ท่านได้เรียนศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติคันทธุระ วิปัสสนาธุระ หลวงปู่โต๊ะ ท่านเป็นคนมีความบากบั่น จนตราบเท่าสอบได้ผู้รู้ธรรมชั้นตรี ถัดมาพระอธิการคำ ได้ตายลง ทางคณะสงฆ์ก็เลยได้แต่งท่านให้ครอบครองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีสืบต่อมาช่วงวันที่ 10 ก.ค. พุทธศักราช 2456