ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์
น้ำมันมะพร้าวช่วยลดคอเลสเตอรอล
น้ำมันมะพร้าวช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลวที่เรียกว่า LDL คอเลสเตอรอล
และช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีที่เรียกว่า HDL คอเลสเตอรอล น้ำมันมะพร้าวจึงให้ผลดีกับหัวใจ
ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคเส้นโลหิตตีบ ซึ่งต่างจากไขมันทรานส์ที่พบในน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีบางชนิด
ซึ่งลด HDL แต่กลับเพิ่ม LDL
น้ำมันมะพร้าวกับความอ้วน
ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำ ดังเช่นชาวเกาะทะเลใต้ ที่อยู่ในตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก
มีรูปร่างที่สมส่วน ไม่อ้วน แต่ก็ไม่ผอม ทั้งนี้เพราะน้ำมันมะพร้าว ช่วยลดความอ้วนได้ดีกว่าน้ำมันอื่นๆ
ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ช่วยกระตุ้นเมตาบอลิสซึม
ทำให้เกิดความร้อนสูง (thermogenesis) : การเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมนี้
ยังนำไปสู่การเกิดความร้อนสูง นั่นคือมีการเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายอีกด้วย เมื่อคนที่เป็นโรคที่ทำให้
มีระบบการทำงานของต่อมธัยรอยด์ต่ำ (hypothyroidism) บริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไป
อุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้นประมาณ 1 ถึง 2 องศาเซลเซียส
และจะยังคงสูงอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันมะพร้าวที่บริโภคเข้าไป ดังนั้น
คนอ้วนเพราะต่อมธัยรอยด์ทำงานในระดับต่ำ จึงสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวกระตุ้นให้ต่อมธัยรอยด์ทำงานดีขึ้น
เพื่อช่วยลดน้ำหนักได้
ช่วยชะลอความหิว : น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยลดปริมาณรวมของการบริโภคอาหารและแคลอรี
คุณจะรับประทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงไม่รับประทานมากขึ้นในมื้อถัดไป
น้ำมันมะพร้าวกับโรคเบาหวาน
เป็นอาหารให้แก่เซลล์ น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดไขมันขนาดกลาง
(Medium-chain fatty acids – MCFAs, C 6-12) จึงเข้าไปในเซลล์ได้โดยไม่ต้องมีอินซูลินเป็นตัวพาเข้า
อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวยังสามารถใช้ เป็นอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ส่งผลให้เซลล์มีอาหารโดยไม่ต้องพึ่งอินซูลิน
ดังนั้นไม่ว่าร่างกายจะสร้างอินซูลินได้ไม่พอหรือเซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลินก็ไม่เป็นปัญหา
ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิสซึม น้ำมันมะพร้าวสามารถกระตุ้นการทำงานของต่อมธัยรอยด์
จึงช่วยเพิ่มอัตราเมตาบอลิสซึม ส่งผลให้มีการเพิ่มการผลิตอินซูลิน และการดูดซึมน้ำตาลเข้าไปในเซลล์
ช่วยให้ตับอ่อน กลับมาสร้างอินซูลินได้อีกครั้ง เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวสามารถทดแทนอาหารของเซลล์
ได้โดยไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ทำให้ความต้องการเอนไซม์ที่ใช้ในการผลิตอินซูลินในตับอ่อนลดลง
จึงช่วยลดความเครียดให้แก่ตับอ่อนในขณะรับประทานอาหาร ซึ่งมีการผลิตอินซูลินอย่างเต็มที่
ทำให้ตับอ่อนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และกลับมาสร้างอินซูลินได้ดังเดิม
กรดลอริก (lauric acid, C – 12, 48-53%) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าว
มีฤทธิ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพของตับอ่อนในการสร้างอินซูลิน นอกจากนั้นกรดไขมันขนาดกลางชนิดอื่นๆ
ได้แก่กรดคาโปรอิก (capric acid, C – 10.7%) กรดคาปริลิก (caprylicacid, C – 8.8%)
และกรดคาโปรอิก (caproic acid, C – 6.05%) ในน้ำมันมะพร้าวต่างก็ช่วยกันเร่งกระบวนการเมตาบอลิสซึม
ส่งผลให้เพิ่มการสร้างอินซูลิน และการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ (Fife 2005)
แร่ธาตุที่สำคัญและวิตะมินบางชนิดต้องละลายในไขมัน
แคลเซี่ยม แม็กเนเซี่ยม เบตาแคโรทีน วิตะมิน A, D, E, K ล้วนต้องละลายในไขมันร่างกายจึงจะดูดซับไปใช้งานได้
คนเราจึงไม่สามารถขาดการบริโภคไขมัน เพราะน้ำมันมะพร้าวย่อยง่าย เปลี่ยนเป็นพลังงานได้เร็ว
จึงช่วยนำแร่ธาตุและวิตะมินต่างๆเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายได้เร็ว
น้ำมันมะพร้าวช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
หากร่างกายขาดแคลเซี่ยมและแม็กเนเซี่ยม จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เกิดอาการกระดูกเปราะ แตกหักง่าย
การรับประทานน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับแคลเซี่ยมและแม็กเนเซี่ยม
จึงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
น้ำมันมะพร้าวเป็นประโยชน์กับทารกและตัวอ่อนในครรภ์
เพราะน้ำมันมะพร้าวทำให้ร่างกายดูดซับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
หากผู้ที่กำลังจะเป็นคุณแม่รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยน้ำมันมะพร้าว ทารกจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างพอเพียง
นอกจากนั้นในน้ำมันมะพร้าวยังประกอบด้วยกรดลอริค ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ในน้ำนมแม่
การรับประทานน้ำมันมะพร้าวจึงเป็นการกระตุ้นให้น้ำนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหาร
และกรดลอริคนี่เองที่มีอำนาจในการฆ่าเชื้อโรค ทำให้ทารกแข็งแรงมีภูมิคุ้มกัน
น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์กับผู้มีปัญหาเรื่องตับ
จากที่กล่าวแล้วว่าคนเราจำเป็นต้องรับประทานไขมัน แต่น้ำมันส่วนมากเป็นกรดไขมันสายยาวจึงย่อยยาก
ต้องอาศัยน้ำดีและเอนไซม์จากตับเป็นตัวช่วยย่อย กระบวนการการย่อยไขมันจะเกิดที่ลำไส้
ผู้ที่เป็นเบาหวานตับอ่อนบกพร่อง หรือผู้ที่เคยผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกจะรู้กันดีว่ามีปัญหาเรื่องย่อยไขมัน
สำหรับน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันสายปานกลาง ย่อยง่ายสามารถย่อยได้แม้ในกระเพาะอาหาร
น้ำมันมะพร้าวจึงมีประโยชน์มากกับผู้มีปัญหาเรื่องตับ
การรับประทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ
- ใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ ในการปรุงอาหาร
- รับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้
ผู้ใหญ่รับประทานก่อนอาหาร วันละ 1-3 ช้อนโต๊ะ เด็ก วันละ 1-2 ช้อนชา
โดยเฉลี่ยแบ่งรับประทานทีละน้อยจนครบจำนวนในแต่ละวัน
หรือ จะผสมในเครื่องดื่มร้อนๆ เช่นโก้โก้ร้อนหรือ น้ำผลไม้ก็ได้
การทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อการดีทอกซ์(Detox)
รับประทานน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ขณะท้องว่าง ก่อนรับประทานอาหารเช้าดื่มน้ำตาม1-2 แก้ว
หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที จะขับถ่าย 1-2 รอบค่ะ
(การขับถ่ายขึ้นอยู่กับลักษณะธาตุเบาหรือธาตุหนักของแต่ละคนค่ะ)
ที่มา: หนังสือ "มหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าว" โดย ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา
:หนังสือ "น้ำมันมะพร้าวลดความอ้วน" โดย ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา
: หนังสือ "น้ำมันมะพร้าวป้องกันโรคเบาหวานได้อย่างไร" โดย ดร. ณรงค์โฉมเฉลา
สอบถามข้อมูล: มะพร้าวไทย 29/10 หมู่ 2 ต. บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม 75120