ออล์พูลลิ่ง เป็นวิธีบำบัดของอินเดียที่มีมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยการอมน้ำมันไว้และเคลื่อนน้ำมันไปมา
ให้ทั่วในช่องปาก ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที จากนั้นจึงบ้วนทิ้งไป
ออยล์พูลลิ่งเป็นที่ฮือฮาเมื่อ Dr.F.Karach,M.D., ได้เสนอรายงานต่อที่ประชุม สัมนาบัณฑิตทางด้านวิทยาศาสตร์
ในประเทศรัสเซียเมื่อปี 2534-2535 ได้อธิบายถึงการบำบัดรักษาโรค ที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร ด้วยวิธีง่ายๆ
โดยใช้การอมน้ำมันผลของการบำบัดด้วยวิธีนี้ ไม่มีอันตารายใดๆ เป็นวิธีรักษาทางด้านชีววิทยาโดยแท้
ด้วยวิธีง่ายๆ ช่วยรักษาโรคได้มากมายหลายชนิด
Dr. Bruce Fife N.D. นักโภชนาการผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเขียนหนังสือไว้หลายเล่มรวมทั้งCoconut Oil Miracle
เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสงสัยในรายงานดังกล่าว จึงได้ทดลองทำออยล์พูลลิ่งด้วยตนเอง
ผลลัพธ์ที่ได้ Dr. Fife ถึงกับออกปากว่า ออยล์พูลลิ่งเป็นการรักษาของ แพทย์ทางเลือก ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
แต่สิ่งที่ Dr. Fife สงสัยคือ เหตุใดการอมน้ำมันจึงช่วยรักษาโรคได้ เขาเริ่มศึกษาการทำออยล์พูลลิ่งของ
Dr. Karach อย่างจริงจังรวมทั้งศึกษารายงานอีกเป็นร้อยๆชิ้น ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่เป็นคำตอบทางวิทยาศาสตร์ซึ่ง
Dr. Fife เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Oil Pulling Therapy มีใจความบางตอนดังนี้
โรคที่ได้รับรายงานว่าตอบสนองต่อการทำออยล์พูลลิ่ง
ผลของการทำออยล์พูลลิ่งที่เห็นได้ชัดคือ
-สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น แน่นขึ้นไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพูแลดูสุขภาพดี ลมหายใจสดชื่น
-ช่วยเยียวยาอาการเจ็บไข้หรืออาการป่วยเรื้อรัง ของโรคดังนี้ สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด
หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน
โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ และลำไส้ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่ออนเพลียเรื้อรัง
เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน
ส่วนอาการหรือโรคที่การศึกษาทางการแพทย์ว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปากโดยตรง
และอาจมีผลตอบสนองกับการทำออยล์พูลลิ่งได้แก่
ปัสสวะเป็นกรด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพอง การอุดตันเส้นเลือดและเส้นเลือดในสมอง ผลเลือดผิดปกติ ฝีในสมอง มะเร็ง
เกาท์ ถุงน้ำดี หัวใจน้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร ไต ตับ ความผิดปกติของระบบประสาท กระดูกพรุน ปอดบวม
ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย แพ้สารพิษ และโรคติดเชื้ออื่นๆอีกหลายชนิด
- น้ำมันชนิดใดเหมาะจะใช้ทำออยล์พูลลิ่ง ?
ตามตำราโบราณของอินเดียแนะนำให้ใช้น้ำมันดอกทานตะวันหรือน้ำมันงา
เนื่องจากเป็นน้ำมันที่หาได้ทั่วไปในอินเดียขณะนั้น Dr. Fife กล่าวว่า
น้ำมันชนิดใดก็สามารถใช้ทำออยล์พูลลิ่งได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบน้ำมันมะพร้าว
เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าวเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา
หรือน้ำมันพืชชนิดใดๆ กรดลอริคในน้ำมันมะพร้าวเมื่อถูกกับเอนไซม์ในน้ำลายจะแตกตัว
เป็นโมโนกลีเซอไรด์ชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค เหตุผลอีกประการหนึ่ง
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์บีบเย็นที่ได้รับการผลิตอย่างมีคุณภาพจะ มีความสะอาดถูกอนามัย
แถมยังมีกลิ่นและรสชาติน่าพอใจอีกด้วย
วิธีการทำ ออยล์พูลลิ่ง
* ช่วงเวลาเช้า ทำขณะที่ท้องว่าง จะดื่มน้ำก่อนหรือไม่ก็ได้
* ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์บีบเย็นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ อมไว้ในปาก
* ค่อยๆ ดูด ดัน และดึง ให้น้ำมันไหลผ่านฟันและเหงือก
* น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นขุ่นหรือมีสีเหลือง
* เคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปากอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 15-20 นาที
* จากนั้นให้บ้วนน้ำมันทิ้งไป
* บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการดื่มน้ำ
ทำอย่างนี้วันละครั้งเป็นอย่างน้อย
- ออยล์พูลลิ่งทำงานอย่างไร ?
ออยล์พูลลิ่งเป็นการบำบัดที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในบรรดาการรักษาทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน สำหรับหลายๆคนมีความรู้สึกว่า
แค่การอมและเคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปาก ไม่น่าจะช่วยรักษาโรคได้
อันที่จริงออยล์พูลลิ่งไม่ได้รักษาโรค แต่มันช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค
หรือเป็นตัวการปล่อยสารพิษให้หมดไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นฟู
ออยล์พูลลิ่งเป็นกระบวนการทางชีววิทยาล้วนๆ แบคทีเรียในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรค
ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เซลล์เดียว เซลล์เหล่านี้ปกคลุมด้วยน้ำมันหรือเนื้อเยื่อที่เป็นไขมัน
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผิวเซลล์ ( เซลล์ของคนเราก็ล้อมรอบด้วยส่วนผสมของไขมันเช่นเดียวกัน)
เมื่อคุณเทน้ำมันลงในน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำกับน้ำมันจะแยกกันอยู่ไม่ยอมผสมรวมกัน
แต่ถ้าคุณเทน้ำมันสองชนิดเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำมันทั้งสองจะผสมรวมและ
ดึงดูดซึ่งกันและกัน นี่คือความลับของออยล์พูลลิ่ง เมื่อคุณใส่น้ำมันลงในปาก
เนื้อเยื่อที่เป็นน้ำมันหรือไขมันของแบคทีเรียจะถูกน้ำมันดูดไว้ ขณะคุณเคลื่อนน้ำมันไปทั่วช่องปาก
แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยแยกของเหงือกและฟันหรือตามซอกของฟัน
จะถูกดูดออกจากที่ซ่อนและติดแน่นอยูในส่วนผสมของน้ำมัน ยิ่งนานยิ่งมาก
หลังจากผ่านไป 20 นาที ส่วนผสมของน้ำมันจะเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ
คุณจึงควรบ้วนทิ้งไปมากกว่าที่จะกลืนมัน เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน
ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียจะถูกดูดออกด้วยเช่นกัน สิ่งที่ไม่ใช่น้ำมัน ( water based)
จะถูกดูดออกด้วยน้ำลาย น้ำลายยังช่วยลดกรดที่เกิดจากแบคทีเรีย
เมื่อแบคทีเรียรวมทั้งพิษร้ายที่เกิดจากแบคทีเรียถูกดูดออกไป
จึงเป็นโอกาสดีที่ร่างกายได้ทำการฟื้นฟู การอักเสบทั้งหลายหมดไป กระแสเลือดเป็นปกติ
เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม การมีสุขภาพดีจึงกลับมาในที่สุด